หลังจากที่ช่วงนี้ ซื้อเกม Cross-Gen มาเล่น (จริงๆ หวังว่าจะเอามาเล่นกับเครื่อง PS5 นะ) ก็อยากจะมาแบ่งปันว่า เกม Open World ใหญ่ๆ เหล่านี้ที่ลงให้ทั้ง PS5 และ PS4 เกมไหนน่าเล่นบ้าง เล่นแล้วเป็นยังไง สนุกมั้ย เกมไหนน่าซื้อบ้าง เพราะเชื่อว่ามีหลายท่านที่ยังตัดสินใจไม่ได้ และอาจจะเล็งไว้ช่วง PS5 ออก (ปลายปี 2020 เถิด สาธุ ฮ่า) หรืออาจจะรอซื้อช่วงปลายปี วันนี้ผมเลยอยากจะมาแบ่งปันความรู้สึกว่าหลังจากเล่นไปแล้วพักหนึ่งแล้วรู้สึกยังไงบ้าง ในการเล่นเกม Next Gen เหล่านี้บนเครื่อง PS4 Pro

– Spider-Man Miles Morales เกม Exclusive ของ PlayStation ที่ถึงแม้ว่าเล่นบน PS4 Pro กราฟิกก็สวยมาก ผมยกให้คุณภาพของกราฟิกใกล้เคียงกับ The Last of Us Part 2 เลย อาจจะไม่สวยเท่า แต่ก็เป็นหนึ่งในเกมที่กราฟิกดีมากของ PlayStation 4 ความรู้สึกที่เราได้รับบทเป็น Mile Morales Spider-Man ก็เพลินมากเวลาเราเดินทางไปในเมืองด้วยการโหนตัวไปตามตึก การเล่นเป็นไปอย่างไหลลื่น มีภารกิจให้ทำมากมาย และ แน่นอน เนื่องจากเป็นแนว Open World เราก็สามารถนำค่าคะแนนของภารกิจต่างๆ มาทำการปลดล็อคความสามารถต่างๆ ทั้งในแง่ Gadget / ชุด / และทักษะพลังของเรา โดยในการส่วนของการแอ็คชั่นให้อารมณ์เหมือนเราเล่นเกมต่อสู้ ตัวเกมจะมีคอมโบให้กดเยอะมากมาย และในบางครั้งจำไม่ได้ ฮ่า ต้องอาศัยการซ้อม สักระยะ แต่พอเริ่มจำได้ก็สนุกดีครับ เกมสามารถเลือกได้ว่า ความยากง่ายระดับไหน โดยโทนของเกมเป็นไปแบบสบายๆ เหมือนเราดูหนัง Marvel อยู่ ในเชิงราคา ผม Pre-order อยู่ที่ประมาณ เกือบ 1,700 บาท ซึ่งก็ต้องบอกว่าเป็นราคาสูงทีเดียวสำหรับเกมที่มีความยาวประมาณ 9 – 12 ชั่วโมง เพราะว่าเพิ่มเงินอีกหน่อยก็จะได้เกมที่มีความยาวมากกว่านี้ แต่ถ้าเทียบกับเกม PS5 ที่ราคาเกมเต็มอยู่ที่ 2,100 – 2,200 บาท เกมนี้ก็ราคาโอเคนะครับ แล้วเรายังสามารถอีพเกรดฟรีเล่นได้บน PS5 อีกรอบด้วย

– Watch Dogs Legion เกมให้เรารับบทเป็นขบวนการลับใต้ดินในการต่อต้าน ซึ่งความสนุกอยู่ที่เราสามารถชวนใครมาอยู่ในกลุ่มองค์กรลับของเราก็ได้ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีความสามารถ และ อุปกรณ์ไม่เหมือนกัน โดยตัวที่ผมชอบใช้บ่อยๆ คือพนักงานก่อสร้าง เพราะว่าจะมีโดรนพาเราบินไปไหนก็ได้ แต่ถ้าเราเปลี่ยนคน เราอาจจะเล่นเปลี่ยนไปเลยทั้งๆ ที่เป็นภารกิจเดียวกัน เรียกได้ว่า Operative ส่งผลต่อการเล่นมาก เกมนี้มีอะไรให้ทำเยอะมาก เหมือนเป็น กระบะทรายขนาดใหญ่ ในสนามเด็กเล่น เล่นได้ไม่รู้เบื่อ กราฟิกมีความสวยงาม รายละเอียดของ London ในอนาคตอันใกล้ทำได้ดีมาก เมืองมีชีวิตชีวิตมาก เรายังสามารถอัพเกรดทักษะหรือ Gadget ต่างๆ ของทีมเราได้เพียงแต่ว่าทักษะหรือ Gadget นี่จะไม่ตกไปที่คนใดคนหนึ่งอัพเกรดทีก็ได้ใช้กันทุกคน ถ้าใครชอบเล่นเกมแนว Action วางแผน ลอบเร้น ผมว่าเกมนี้คุ้มค่ามากๆ ครับผม เล่นเพลินเลย และเอามาเล่นซ้ำได้เรื่อยๆ

– Assassin’s Creed : Valhalla เกมนี้จริงๆ แล้วเป็นเกมที่สนุกมากทีเดียว เป็น AC ที่เหมือนรวมทุกอย่างของความสนุกแบบ AC ไว้ไม่ว่าจะเป็นการสร้างฐาน การสำรวจ ฉาก Action ที่สนุก ติดงอมแงม การอัพเกรดทักษะ และ เครื่องมือ ชุดต่างๆ รวมไปถึงเควสต์ที่มีมากมาย ทำกันไปได้เรื่อย รวมไปถึงกราฟิกที่อาจจะไม่ได้มีความสวยงามเท่ากันตลอดเกมแต่ก็อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ แต่ว่าเกมนี้มีประเด็นเรื่องการเซนเซอร์ ซึ่งถ้าใครไม่ชอบแนะนำให้หาแผ่นโซนหนึ่งมาเล่น แต่ที่ผมเจอและทำให้ไม่สามารถแนะนำเกมนี้ได้คือมี BUG ที่ค่อนข้างรบกวนการเล่น ทำให้ประสบการณ์การเล่นไม่โอเคทั้งๆ ที่เกมสนุก แนะนำให้รอ Patch ก่อนสำหรับคนที่ไม่ได้เป็นแฟน หรือมีเกมอื่นๆ เล่นอยู่แล้ว ยังไม่ต้องรีบซื้อก็ได้ครับ

ทั้งสามเกม เอากันจริงๆ ในระยะยาวเป็นเกมที่คุ้มมากๆ สามัญประจำเครื่องที่เชื่อว่าน่าจะติดเครื่องเราไปจากทั้ง PS4 และไปสู่ PS5 โดยอัพเกรดฟรีทั้งสามเกม แต่ในอีกแง่หนึ่งจริงๆ เล่นทีละเกมก็ได้นะครับ ไม่ต้องรีบสร้างไหยาดองก็ได้ เล่นไม่ทัน 555 ลองดูว่าแนวไหนที่เหมาะกับคุณที่สุดครับ

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

ไม่พบเรื่อง